เรื่อง : นายก อบจ.ลงพื้นที่ร่วมกับ นายประภัตร โพธสุทน รมต.ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รายละเอียด
วันที่ 18 ธันวาคม 2564 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงานเทศบาลตำบลสีแก้ว อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด นายเอกภาพ พลซื่อ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายภูสิต สมจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดร้อยเอ็ดลงพื้นที่ร่วมกับนายประภัตร โพธสุทน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อมอบโค กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ โดยมอบพันธุ์โค 70 ตัว นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เกษตรกรมีอาชีพเสริมและมีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายที่จะให้เกษตรกรยืมเงินตามมาตรการ การส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกร รายละ ไม่เกิน 100,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ แต่ใช้บุคคล 2 คน ต่างคนต่างมาค้ำประกันซึ่งกันและกัน เป็นกลุ่มละ 300,000 บาท ในการแก้ปัญหา ฟื้นฟูอาชีพ และสร้างรายได้ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทุกอย่างให้อำนาจ ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นแกนหลัก ในการดูแล แก้ปัญหา ส่งเสริมอาชีพภาคเกษตรด้านการปลูกพืชระยะสั้น เช่นการปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ และอย่างอื่นตามถนัด ให้มีรายได้ประทัง เลี้ยงชีพ รอการทำนาปี รวมทั้ง ส่งเสริมด้านการสร้างอาชีพด้านอื่น มาเป็นรายได้เสริมชดเชย เช่นส่งเสริมกากรทำปศุสัตว์ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่นการเลี้ยงโคขุน การเลี้ยงแพะ แกะ เป็ด ไก่ การเลี้ยงปลา การเลี้ยงกุ้งฝอย หรือแม้กระทั่งการเลี้ยง จิ้งหรีด หรือแม้แต่การเลี้ยงแมงสะดิ้ง ที่สร้างรายได้เสริมได้เป็นกอบเป็นกำ ในหลายจังหวัด ที่ทำได้ผล มาสร้างรายได้ชดเชย จนกว่าจะถึงหน้านา โดยในการของการทำนา ก็จะส่งเสริมให้มีการพัฒนา ใช้พันธุ์ข้าวที่มาตรฐาน โดยจะส่งเสริมการทำนาเปลี่ยนมาใช้เมล็ดพันธุ์ดีที่มีความมาตรฐาน โดยกำหนดให้ศูนย์ขยายเมล็ดพันพันธุ์ข้าว ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี เพื่อให้เกษตรกรได้เปลี่ยนมาใช้เมล็ดข้าวพันธุ์ดี โดยกรมการข้าวจะเป็นผู้กำหนดแผนในการแก้ปัญหาให้กับชาวนา เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตข้าว ให้กับชาวนาทั้งภาคอีสาน สามารถขายข้าวได้ราคาดี คุ้มต้นทุนและเกิดผลกำไร จนสามารถยืนหยัดได้ อย่างมั่นคง ตามนโยบาย ของรัฐบาล โดย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อยืนยันให้ประชาขนมั่นใจว่า รัฐบาล จะไม่ทิ้งภาระ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาขน โดยจะมีหน่วยงานของรัฐ ที่เป็นตัวแทนของรัฐบาล พร้อมที่จะดูแลให้ความช่วยเหลือ แม้แต่ในด้านการแก้ปัญหาฟื้นฟูอาชีพ ของประชาชนที่มีปัญหา ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ และแม้แต่การขาดเงินต้นทุนเพื่อการผลิต หารายได้ฟื้นฟูตนเอง ซึ่งก็มีแหล่งเงินทุนของรัฐ คือ ธกส.พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ โดยเพียงแต่ปฏิบัติให้เข้ากฏเกณฑ์ที่กำหนด ก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยเกษตรกร สามารถยื่นขอสมัครเข้าร่วมโครงการ ที่ ธกส. ได้ทันที
วันที่ 20 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2564
View 000441